สารบัญ
- บทนำ
- อยากเลิกด้อยค่า ต้องเลิก “เปรียบเทียบ” ก่อน
- ความรู้สึกด้อยค่ามาจาก “ความไร้ช่วยเหลือที่เรียนรู้ได้”
- 3 เทคนิคลดความรู้สึกด้อยค่า
- พัฒนาจุดแข็งของตัวเองอย่างจริงจัง
- ออกจาก “Comfort Zone”
- ยอมรับและชื่นชมตัวเอง
- สรุป
- Q&A
บทนำ
เรามักจะเผลอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เช่น KUBET เห็นเพื่อนเลื่อนตำแหน่งและเงินเดือนสูงขึ้น หรือเห็นเพื่อนมีชีวิตที่ดูดี จนเกิดเสียงในใจว่า: “ทำไมฉันทำไม่ได้?” ความรู้สึกด้อยค่าเหมือนวันฟ้าครึ้ม เงียบ ๆ ปกคลุมชีวิตเรา KUBET ทำให้เราสงสัยคุณค่าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
หมวดหมู่ | รายละเอียด |
---|---|
สถานการณ์ทั่วไป | – เห็นเพื่อนเลื่อนตำแหน่งหรือเงินเดือนสูงขึ้น- เห็นเพื่อนมีชีวิตที่ดูดี มีความสำเร็จหรือสิ่งที่เราปรารถนา |
ความรู้สึกที่เกิดขึ้น | – รู้สึกด้อยค่า รู้สึกไม่พอใจตัวเอง- เกิดความสงสัยในคุณค่าของตัวเอง- เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอย่างไม่เป็นธรรม |
ผลกระทบต่อชีวิต | – ความมั่นใจลดลง- เกิดความเครียดหรือวิตกกังวล- อาจส่งผลต่อการตัดสินใจหรือการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ |
ลักษณะของความรู้สึก | – คล้าย “วันฟ้าครึ้ม” ปกคลุมจิตใจอย่างเงียบ ๆ- ทำให้เรามองตัวเองในแง่ลบโดยไม่รู้ตัว |
ข้อสังเกตสำคัญ | – เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น- การตระหนักรู้และเข้าใจความรู้สึกสามารถช่วยปรับทัศนคติได้ |
อยากเลิกด้อยค่า ต้องเลิก “เปรียบเทียบ” ก่อน
คนเรามักเปรียบเทียบตัวเองกับความสำเร็จ คุณสมบัติ หรือทรัพย์สินของคนอื่น เพื่อตัดสินว่าใครประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ KUBET เรามักเปรียบเทียบ ข้อด้อยของตัวเองกับข้อดีของคนอื่น
- การเปรียบเทียบเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และบางครั้งก็ช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง
- แต่ถ้ามันครอบงำชีวิต จะไม่มีวันสิ้นสุด: “คนเก่งกว่าคนอยู่เสมอ”
- การเปรียบเทียบที่ไม่สมเหตุสมผล KUBET จะทำให้ความรู้สึกด้อยค่าอยู่คู่กับเรา
ผลกระทบของการเปรียบเทียบเกินพอดี
- แม้มีคนชมเรา เราก็รู้สึกว่าโดนประเมินเกินจริง
- ไม่สามารถยอมรับคำชมจากคนอื่น
- สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การหาตำแหน่งของตัวเอง KUBET ไม่ใช่การแข่งกับใคร
ความรู้สึกด้อยค่ามาจาก “ความไร้ช่วยเหลือที่เรียนรู้ได้”
นักจิตวิทยา Martin Seligman และ Steven Maier (1975) ทำการทดลองกับสุนัข เพื่อศึกษาพฤติกรรมเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ KUBET
การทดลองแบ่งสุนัขเป็น 3 กลุ่ม
- กลุ่มควบคุม – ไม่มีการช็อตไฟฟ้า
- กลุ่มสามารถหยุดช็อตได้ – ถ้ากดแผงควบคุม จะหยุดช็อต
- กลุ่มไม่สามารถหยุดช็อตได้ – ไม่มีวิธีหยุดช็อต
ขั้นที่สอง: วางสุนัขในกรงกับสิ่งกีดขวาง
- กรงแบ่งสองฝั่ง: ฝั่งหนึ่งไฟฟ้าช็อต / อีกฝั่งปลอดภัย
- สุนัขสามารถกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางไปฝั่งปลอดภัยได้
ผลการทดลอง
- กลุ่ม 1 และ 2: เรียนรู้และกระโดดข้ามไปฝั่งปลอดภัยได้
- กลุ่ม 3: ส่วนใหญ่ไม่พยายามกระโดด แม้มีทางหนีได้แล้ว → เกิด (Learned Helplessness)
สรุป: คนที่เคยเจอความล้มเหลวต่อเนื่อง อาจเกิดความรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และแสดงออกในพฤติกรรมเชิงลบ KUBET
ข้อสังเกต: มีสุนัขบางตัวยังพยายามแก้ปัญหาได้ แม้เคยล้มเหลวมาก่อนแปลว่า ประสบการณ์ความสำเร็จที่ผ่านมา ช่วยให้เรากล้าพยายามแม้เจอสถานการณ์ควบคุมไม่ได้
เทคนิคลดความรู้สึกด้อยค่า

พัฒนาจุดแข็งของตัวเองอย่างจริงจัง
มนุษย์สร้างความหมายชีวิตจาก Self-actualization (Maslow) การรู้จักศักยภาพตัวเอง และพัฒนาให้เต็มที่ → เพิ่มความมั่นใจและความสำเร็จ อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับมาตรฐานที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น “ฉันเก่งภาษาอังกฤษ แต่ไม่เก่งพอจะแปลทันที ก็ไม่ใช่ข้อดี?” หากยังไม่เชี่ยวชาญในบางเรื่อง → พยายามฝึกฝนให้กลายเป็นจุดแข็งของตัวเอง การสะสมประสบการณ์ความสำเร็จ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจทีละขั้น
ออกจาก “Comfort Zone”
Comfort Zone: สภาพแวดล้อม ความคิด พฤติกรรม หรือวงสังคมที่เคยชิน หากปล่อยให้ความด้อยค่ากลายเป็นนิสัย จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ การออกจาก Comfort Zone ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงหรือสุดโต่ง เช่น เข้าร่วมเวิร์กช็อป พบปะคนใหม่ เริ่มอ่านหนังสือ หรือปรับความสัมพันธ์กับครอบครัว แนะนำ: แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็น เป้าหมายย่อยที่ทำได้จริง ตัวอย่าง: จะว่ายน้ำข้ามทะเลสาบ → เรียนว่ายน้ำ ฝึกท่าต่าง ๆ เพิ่มความแข็งแรง เตรียมทีมและอุปกรณ์ การเปลี่ยนแปลงต้องเป็น กระบวนการต่อเนื่อง KUBET ไม่ใช่เหตุการณ์เดี่ยว
ยอมรับและชื่นชมตัวเอง
เราไม่สามารถควบคุมความคิดเห็นคนอื่นได้ แต่ การเลือกมุมมองของตัวเอง ทำได้ KUBET ความสำเร็จและความสุขไม่ใช่มาตรฐานเดียว ฝึกชื่นชมตัวเอง: มองว่าตัวเองพัฒนาไปแล้วกี่ขั้น ผ่านอุปสรรคมาแล้วกี่อย่าง กิจกรรมตัวอย่าง: บันทึกทุกคืน 3 เรื่องที่ควรชมตัวเอง, พูดคุยกับเพื่อนเพื่อรับคำยืนยัน, ออกกำลังกายเพื่อรู้สึกถึงพลังของตัวเอง, ถ่ายรูปบันทึกช่วงเวลาที่รู้สึกสำเร็จ การฝึกชื่นชมตัวเองต้องทำต่อเนื่อง แม้อาจยังมีเสียงด้อยค่ากระทบ แต่ค่อย ๆ สร้างสมดุลระหว่างความรู้สึกด้อยค่าและการยอมรับตัวเอง KUBET
สรุป
ความรู้สึกด้อยค่า เกิดจากการเปรียบเทียบและประสบการณ์ล้มเหลว เทคนิค 3 ข้อสำคัญ: พัฒนาจุดแข็งของตัวเอง, ออกจาก Comfort Zone อย่างเป็นขั้นตอน, ยอมรับและชื่นชมตัวเอง การเปลี่ยนกรองมุมมองจาก “เห็นแต่ข้อด้อย” → “เห็นสิ่งที่ทำได้ดี” อาจต้องใช้เวลา หลายสัปดาห์จนถึงหลายปี สุขภาพจิตที่ดีเกิดจาก การยอมรับและก้าวข้ามตัวเอง ไม่ใช่แข่งกับคนอื่น
Q&A
คำถาม 1: ทำไมการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจึงทำให้เกิดความรู้สึกด้อยค่า?
คำตอบ: เพราะเรามักเปรียบเทียบข้อด้อยของตัวเองกับข้อดีของคนอื่น ทำให้มองตัวเองต่ำกว่ามาตรฐานและไม่สามารถยอมรับคำชมจากคนอื่นได้
คำถาม 2: ความรู้สึกด้อยค่าเกี่ยวข้องกับแนวคิด “Learned Helplessness” อย่างไร?
คำตอบ: คนที่เคยเผชิญความล้มเหลวต่อเนื่องอาจเกิดความรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และแสดงออกในพฤติกรรมเชิงลบ คล้ายสุนัขในทดลองที่แม้มีทางหนีแล้วก็ไม่พยายาม
คำถาม 3: การพัฒนาจุดแข็งของตัวเองช่วยลดความรู้สึกด้อยค่าได้อย่างไร?
คำตอบ: การรู้จักศักยภาพและฝึกฝนให้เต็มที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสำเร็จ การสะสมประสบการณ์ความสำเร็จทีละขั้นจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง
คำถาม 4: การออกจาก Comfort Zone มีประโยชน์อย่างไรต่อความมั่นใจและการลดความด้อยค่า?
คำตอบ: การออกจาก Comfort Zone ทำให้เราลองทำสิ่งใหม่ ฝึกความสามารถ และเผชิญความท้าทายอย่างเป็นขั้นตอน ทำให้ความด้อยค่าลดลงและเปิดโอกาสพัฒนาตัวเอง
คำถาม 5: วิธีฝึกยอมรับและชื่นชมตัวเองมีอะไรบ้าง?
คำตอบ:
- ฝึกต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความรู้สึกด้อยค่าและการยอมรับตัวเอง
- บันทึกทุกคืน 3 เรื่องที่ควรชมตัวเอง
- พูดคุยกับเพื่อนเพื่อรับคำยืนยัน
- ออกกำลังกายเพื่อรู้สึกถึงพลังของตัวเอง
- ถ่ายรูปบันทึกช่วงเวลาที่รู้สึกสำเร็จ
เนื้อหาที่น่าสนใจ: