สารบัญ
- บทนำ
- คุณค่าทางโภชนาการของส้มโอ
- 6 กลุ่มยาที่ห้ามกินร่วมกับส้มโอ
- ตัวอย่างผลข้างเคียง
- คำแนะนำสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง
- สรุป
- Q&A
บทนำ
ส้มโอถือเป็นผลไม้ยอดนิยมช่วงเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง KUBET นอกจากจะช่วยคลายความมันจากอาหารปิ้งย่างและขนมไหว้พระจันทร์แล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่สำหรับผู้ที่กำลังทานยาอยู่ ต้องระวัง เพราะส้มโออาจทำให้ยาออกฤทธิ์แรงเกินไป KUBET เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ผลไม้ | ส้มโอ |
ช่วงยอดนิยม | เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง |
คุณค่าทางโภชนาการ | สูง มีวิตามินและสารอาหารหลายชนิด |
ประโยชน์ | – ช่วยคลายความมันจากอาหารปิ้งย่าง- ช่วยลดความมันจากขนมไหว้พระจันทร์ |
ข้อควรระวัง | – ผู้ที่กำลังทานยา ต้องระวัง- ส้มโออาจทำให้ยาออกฤทธิ์แรงเกินไปและเกิดผลข้างเคียงรุนแรง |
คุณค่าทางโภชนาการของส้มโอ
ส้มโอเป็นผลไม้ที่ทั้งเนื้อและเปลือกมีประโยชน์
1. วิตามิน C
ส้มโอ 100 กรัม มีวิตามิน C ประมาณ 54.5 มก.
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ, ป้องกันการเกิดจุดด่างดำ, ส่งเสริมการหายของแผล และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
2. วิตามิน B2
ป้องกันโรคผิวหนัง, หอบหืด, โลหิตจาง, นอนไม่หลับ, การเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์
3. วิตามิน P
ช่วยเสริมฤทธิ์วิตามิน C ปรับปรุงการทำงานของเส้นเลือดเล็ก, ลดไขมันและคอเลสเตอรอล ดีต่อผู้ที่มีโรคหัวใจและโรคอ้วน
4. ใยอาหาร
ส้มโอ 100 กรัม มีใยอาหาร 1.3 กรัม
ช่วยระบบย่อยอาหาร, ป้องกันท้องผูก ผู้ที่ท้องเสียง่ายควรระวัง ไม่ควรกินมาก
หมายเหตุ: ส้มโอมีน้ำตาลค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง แนะนำไม่เกินครึ่งผลต่อวัน KUBET

6 กลุ่มยาที่ห้ามกินร่วมกับส้มโอ
ส้มโอมีสาร furanocoumarins คล้ายกับส้มเกรปฟรุต KUBET ทำให้เอนไซม์ CYP3A4 ในร่างกายทำงานลดลง ส่งผลให้ยาถูกย่อยช้า, คงฤทธิ์นานขึ้น, ความเข้มข้นในเลือดสูงเกินไป จนอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรง KUBET
กลุ่มยาและผลข้างเคียง:
– ลดไขมันในเลือด: Atorvastatin, Lovastatin, Simvastatin → ปวดกล้ามเนื้อ, ปัสสาวะสีเข้ม, rhabdomyolysis, ไตวายเฉียบพลัน
– ลดความดันโลหิต: Amlodipine, Felodipine, Nifedipine, Verapamil → ความดันต่ำ, หัวใจเต้นเร็ว, บวมน้ำ, หัวใจวายแบบขาดเลือด
– ยานอนหลับ/บรรเทาเครียด: Diazepam, Midazolam, Triazolam, Buspirone → เวียนหัว, ง่วงซึม, หายใจช้า
– ยากดภูมิคุ้มกัน: Cyclosporine → ปวดหัว, แคลเซียม/เกลือแร่ไม่สมดุล, ความดันสูง, ชัก, ตับ/ไตเสียหาย
– ยาแก้หัวใจเต้นผิดจังหวะ: Amiodarone, Quinidine → ความเข้มข้นยาในเลือดสูง, ความเป็นพิษเพิ่ม
– ยาแก้ชัก: Carbamazepine → เสี่ยงเกิดอาการแพ้ยา เช่น ผื่น, ไข้, กลืนลำบาก
ตัวอย่างผลข้างเคียง
ตัวอย่าง: ยาลดไขมัน (Atorvastatin) หากกินร่วมส้มโอ อาจทำให้กล้ามเนื้อปวด, ปัสสาวะสีเข้ม, ไตวายเฉียบพลัน
คำแนะนำสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง
ผู้สูงอายุมักทานยาหลายชนิด KUBET ความสามารถในการทนต่อยาเข้มข้นสูงต่ำกว่าคนทั่วไป หากต้องการทานส้มโอ ควรตรวจสอบกับแพทย์ก่อน แม้กินส้มโอแล้วเว้นระยะหลายชั่วโมงก่อนทานยา KUBET ก็อาจยังเกิดปฏิกิริยากับยาอยู่
สรุป
ส้มโอเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดไขมัน, เพิ่มภูมิคุ้มกัน, มีใยอาหารสูง แต่สำหรับผู้ที่ทานยากลุ่มเสี่ยง ควรระวังอย่างมาก KUBET
หลักการง่าย ๆ:
– ตรวจสอบว่ากำลังทานยากลุ่มใดอยู่
– หากเป็นหนึ่งใน 6 กลุ่มยาห้ามกินร่วมส้มโอ
– ปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
– หลีกเลี่ยงกินส้มโอพร้อมยา เพื่อป้องกันผลข้างเคียงรุนแรง
ข้อควรจำ: การกินส้มโอแม้เพียงเล็กน้อย KUBET ก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นของยาในร่างกายได้ KUBET
Q&A
คำถาม 1: ทำไมผู้ที่ทานยาจึงต้องระวังการกินส้มโอ?
คำตอบ: ส้มโอมีสาร furanocoumarins ทำให้เอนไซม์ CYP3A4 ทำงานลดลง ส่งผลให้ยาถูกย่อยช้า ความเข้มข้นในเลือดสูงขึ้น จนอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรง
คำถาม 2: ส้มโอมีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้างที่สำคัญต่อร่างกาย?
คำตอบ: ส้มโออุดมด้วยวิตามิน C ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามิน B2 ป้องกันโรคผิวหนังและโลหิตจาง วิตามิน P ช่วยปรับปรุงเส้นเลือดและลดไขมัน ใยอาหารช่วยระบบย่อยอาหารและป้องกันท้องผูก
คำถาม 3: ยากลุ่มใดบ้างที่ห้ามกินร่วมกับส้มโอ และตัวอย่างผลข้างเคียง?
คำตอบ: 6 กลุ่มยาห้ามร่วมส้มโอ ได้แก่
– ลดไขมันในเลือด (Atorvastatin, Lovastatin, Simvastatin) → ปวดกล้ามเนื้อ, ไตวาย
– ลดความดันโลหิต (Amlodipine, Felodipine, Nifedipine, Verapamil) → ความดันต่ำ, หัวใจวาย
– ยานอนหลับ/บรรเทาเครียด (Diazepam, Midazolam, Triazolam, Buspirone) → ง่วงซึม, หายใจช้า
– ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine) → ตับ/ไตเสียหาย
– ยาแก้หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Amiodarone, Quinidine) → ความเป็นพิษเพิ่ม
– ยาแก้ชัก (Carbamazepine) → เสี่ยงแพ้ยา
คำถาม 4: ผู้สูงอายุควรระวังอะไรเกี่ยวกับการกินส้มโอและยา?
คำตอบ: ผู้สูงอายุมักทานยาหลายชนิดและทนต่อความเข้มข้นของยาได้น้อย หากกินส้มโอแม้เว้นระยะก็อาจเกิดปฏิกิริยากับยาได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
คำถาม 5: ปริมาณส้มโอที่เหมาะสมต่อวันคือเท่าไรและเพราะอะไร?
คำตอบ: ไม่ควรกินเกินครึ่งผลต่อวัน เพราะส้มโอมีน้ำตาลสูงและอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป
เนื้อหาที่น่าสนใจ: