วิธีรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่? สัญญาณเตือน อาการ วิธีดูแลตัวเองแบบครบจบในบทความเดียว


สารบัญ

  1. บทนำ
  2. โรคซึมเศร้า และโรคไบโพลาร์ (โรคอารมณ์สองขั้ว) คืออะไร?
  3. โรคซึมเศร้ามีหลายประเภท
  4. สัญญาณเตือนและอาการของโรคซึมเศร้า
  5. แบบประเมินตนเอง: ฉันเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า?
  6. สาเหตุที่พบบ่อยของโรคซึมเศร้า
  7. วิธีรักษาโรคซึมเศร้า
  8. วิธีดูแลตนเองเมื่อมีอาการซึมเศร้า
  9. หากมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง ควรทำอย่างไร?
  10. ข้อสรุป: ซึมเศร้าไม่ใช่ความผิด แต่เป็นเรื่องที่รักษาได้
  11. Q&A

โรคซึมเศร้า และโรคไบโพลาร์ (โรคอารมณ์สองขั้ว) คืออะไร?

  • โรคซึมเศร้า : เป็นภาวะทางจิตใจที่มีอารมณ์เศร้าหรือหมดแรงจูงใจในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น
  • โรคไบโพลาร์ (โรคอารมณ์สองขั้ว):  KUBETมีการสลับระหว่างอารมณ์ที่สูงผิดปกติ (ระยะ “คลั่ง”) กับช่วงอารมณ์ตกต่ำอย่างรุนแรง (ระยะ “ซึมเศร้า”)
หัวข้อโรคซึมเศร้า (Depression)โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder)
ลักษณะอาการหลักอารมณ์เศร้า หมดหวัง ไม่สนใจสิ่งรอบตัว นานหลายสัปดาห์อารมณ์แปรปรวนรุนแรง สลับระหว่าง “คลั่ง” (Mania) และ “ซึมเศร้า”
ระยะเวลาของอารมณ์ต่อเนื่องและยาวนาน (อย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป)เป็นรอบๆ แต่ละรอบอาจกินเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
ช่วงอารมณ์ดีเกินปกติไม่มีมี (ระยะคลั่ง: พูดเร็ว คิดไว ใช้จ่ายเกินตัว หงุดหงิดง่าย)
พฤติกรรมและผลกระทบเฉื่อยชา สมาธิลดลง ประสิทธิภาพการทำงานแย่ลงพฤติกรรมเสี่ยงสูงในช่วงคลั่ง เช่น ใช้เงินเกินตัว ขับรถเร็ว มีพลังเกินเหตุ
การรักษายาต้านเศร้า + จิตบำบัดยาควบคุมอารมณ์ + ยาแก้ซึมเศร้า + จิตบำบัด
ความจำเป็นในการติดตามอาการสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มรักษาจำเป็นมาก เพราะอารมณ์อาจเปลี่ยนแปลงเร็ว

โรคซึมเศร้ามีหลายประเภท

  • ภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง (PDD / Dysthymia)
  • ภาวะซึมเศร้ารุนแรง (MDD)
  • โรคซึมเศร้าร่วมกับอาการทางจิต
  • ภาวะปรับตัวผิดปกติ
  • โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (SAD)
  • ภาวะอารมณ์ผิดปกติก่อนมีประจำเดือน (PMDD)
  • โรคซึมเศร้าหลังคลอด (PPD)

สัญญาณเตือนและอาการของโรคซึมเศร้า

ด้านอารมณ์:

  • รู้สึกเศร้า ว่างเปล่า  KUBETสิ้นหวังเป็นเวลานาน
  • หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ  KUBET
  • หงุดหงิด วิตกกังวลง่าย

ด้านความคิด:

  • สมาธิลดลง คิดช้าลง
  • รู้สึกผิด โทษตัวเอง
  • ขาดความมั่นใจในตัวเอง  KUBET

ด้านพฤติกรรมและสังคม:

  • นอนไม่หลับหรือนอนมากเกิน  KUBET
  • กินมากหรือน้อยผิดปกติ
  • หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน

ด้านร่างกาย:

  • เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อยตามตัว
  • ความต้องการทางเพศลดลง

อาการอันตราย:

  • รู้สึกว่าชีวิตไม่มีคุณค่า
  • มีความคิดอยากตาย หรือทำร้ายตัวเอง

แบบประเมินตนเอง: ฉันเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า?

✅ แบบประเมิน BSRS-5

ประเมินความเครียดจาก 5 คำถาม

  • คะแนน 6–9: มีความเครียดเล็กน้อย ควรพูดคุยกับคนใกล้ชิด
  • คะแนน 10–14: ความเครียดปานกลาง ควรพบผู้เชี่ยวชาญ
  • คะแนน ≥15: ความเครียดรุนแรง  KUBETควรพบจิตแพทย์โดยเร็ว
  • หากคำถามเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายได้ ≥2 คะแนน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

✅ แบบประเมิน PHQ-9

ใช้ประเมินระดับอาการซึมเศร้าอย่างละเอียด

  • 10–14 คะแนน: ซึมเศร้าระดับอ่อน
  • 15–19 คะแนน: ซึมเศร้าระดับกลาง
  • 20 คะแนนขึ้นไป: ซึมเศร้ารุนแรง ควรพบแพทย์ทันที

สาเหตุที่พบบ่อยของโรคซึมเศร้า

1. พันธุกรรม

หากคนในครอบครัวมีประวัติโรคซึมเศร้า  KUBETความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น

2. ความไม่สมดุลของฮอร์โมนหรือสารเคมีในสมอง

เช่น เซโรโทนิน โดพามีน และนอร์เอพิเนฟรินที่มีบทบาทควบคุมอารมณ์  KUBET

3. สภาพแวดล้อมและจิตใจ

  • บาดแผลในวัยเด็ก เช่น การสูญเสีย ความรุนแรงในครอบครัว
  • บุคลิกภาพที่คิดลบ หวั่นไหว ง่ายต่อการโทษตัวเอง
  • เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงใหญ่ เช่น การเลิกงาน การหย่าร้าง การสูญเสียคนสำคัญ

วิธีรักษาโรคซึมเศร้า

1. จิตบำบัด (Psychotherapy)

  • เช่น การบำบัดด้วยความคิดและพฤติกรรม (CBT)
  • เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นระดับเบาถึงปานกลาง

2. การใช้ยา (Medication)

  • ยาต้านซึมเศร้าจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง
  • ต้องได้รับการสั่งจ่ายโดยจิตแพทย์เท่านั้น ไม่ควรซื้อยากินเอง

วิธีดูแลตนเองเมื่อมีอาการซึมเศร้า

1. สร้างกิจวัตรประจำวันให้สม่ำเสมอ

  • เข้านอนและตื่นให้ตรงเวลา
  • ทานอาหารดี ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

2. ฝึกเทคนิคผ่อนคลาย

  • หายใจลึก ๆ
  • ฝึกสมาธิ โยคะ เขียนบันทึกอารมณ์

3. เชื่อมโยงทางสังคม

  • คุยกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท
  • เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน

4. ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวัน

  • เพื่อสร้างความรู้สึกประสบความสำเร็จ
  • เพิ่มพลังบวกและความมั่นใจ

หากมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง ควรทำอย่างไร?

  • รีบพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
  • โทรสายด่วนสุขภาพจิต 1925 (ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงในไต้หวัน)
  • บอกคนใกล้ตัว ไม่ควรเผชิญปัญหาเพียงลำพัง

ข้อสรุป: ซึมเศร้าไม่ใช่ความผิด แต่เป็นเรื่องที่รักษาได้

การยอมรับว่าตนเองกำลังเผชิญปัญหา  KUBETคือก้าวแรกของความกล้าหาญ ความเศร้าไม่ใช่ความอ่อนแอ และคุณไม่จำเป็นต้องเผชิญมันคนเดียว ขอเพียงเปิดใจ ขอความช่วยเหลือ — คุณมีคุณค่า และสมควรได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยน  KUBET

Q&A

❓1. โรคซึมเศร้าและโรคไบโพลาร์ต่างกันอย่างไร?

✅ คำตอบ:
โรคซึมเศร้าเป็นภาวะอารมณ์เศร้าหรือหมดแรงจูงใจอย่างต่อเนื่อง ส่วนโรคไบโพลาร์คือภาวะที่มีการสลับระหว่างอารมณ์สูงผิดปกติ (คลั่ง) และอารมณ์ตกต่ำรุนแรง (ซึมเศร้า)


❓2. อาการทั่วไปที่บ่งบอกว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้ามีอะไรบ้าง?

✅ คำตอบ:
มีอาการเศร้าหมดหวังเรื้อรัง, หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ, สมาธิลดลง, รู้สึกผิดและโทษตัวเอง, นอนไม่หลับหรือนอนมากเกิน, กินผิดปกติ และหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน รวมถึงมีความคิดอยากตายหรือทำร้ายตัวเองในบางราย


❓3. แบบประเมินใดช่วยวินิจฉัยโรคซึมเศร้าเบื้องต้นได้?

✅ คำตอบ:
แบบประเมิน BSRS-5 ใช้ประเมินความเครียดทั่วไป และแบบประเมิน PHQ-9 ใช้วัดระดับความรุนแรงของอาการซึมเศร้า โดยคะแนนสูงควรพบผู้เชี่ยวชาญหรือตรวจรักษา


❓4. สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าคืออะไร?

✅ คำตอบ:
เกิดจากปัจจัยพันธุกรรม ความไม่สมดุลของฮอร์โมนและสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน รวมถึงปัจจัยทางสภาพแวดล้อมและจิตใจ เช่น บาดแผลในวัยเด็ก บุคลิกภาพคิดลบ และเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงใหญ่ในชีวิต


❓5. วิธีดูแลตนเองเมื่อมีอาการซึมเศร้าควรทำอย่างไร?

✅ คำตอบ:
ควรสร้างกิจวัตรประจำวันให้สม่ำเสมอ เช่น นอนให้ตรงเวลา กินอาหารดี และออกกำลังกาย ฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก ฝึกสมาธิ เชื่อมโยงทางสังคมด้วยการพูดคุยกับคนใกล้ชิด และตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

More Articles & Posts